PMsquare ThailandPMsquare ThailandPMsquare Thailand

การวางแผนและวิเคราะห์แบบบูรณาการนั้นเป็นรากฐานสำคัญในการตัดสินใจ

การวางแผนแบบบูรณาการ (Integrated planning) จะทำให้องค์กรมีรากฐานที่มั่นคงในสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

โลกในทุกวันนี้หมุนไปอย่างรวดเร็วและมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างความท้าทายให้กับองค์กรในหลาย ๆ ด้าน รวมไปถึงการวางแผนและการคาดการณ์ขององค์กรด้วย โดยเฉพาะการวางแผนเชิงกลยุทธ์ การวางแผนด้านการดำเนินงาน การวิเคราะห์แบบบูรณาการ และระบบธุรกิจอัจฉริยะ (Business Intelligence – BI) ที่มีความสำคัญมากขึ้นในทุก ๆ วัน เพราะเป็นตัวช่วยที่ทำให้เข้าใจและสามารถทำการตัดสินใจจากข้อมูลได้อย่างสอดคล้องกันมากขึ้น

นอกจากนี้ การนำเทคโนโลยีและอัลกอริทึมเข้ามาช่วยในการวางแผนเชิงคาดคะเนขององค์กร เป็นสิ่งที่หลาย ๆ องค์กรต่างให้ความสำคัญอย่างมาก เพื่อเป้าหมายในการลดงานให้กับนักวางแผน และใช้ข้อมูลในอดีตในการคาดการณ์อนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

การวางแผนและการวิเคราะห์ขององค์กรแบบบูรณาการคือรากฐานที่สำคัญของการบริหารจัดการองค์กรสมัยใหม่ที่มีข้อมูลเป็นตัวขับเคลื่อน ซึ่งไม่ได้ช่วยแค่ให้สามารถตัดสินใจได้รวดเร็วและโปร่งใสขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการวางแผนเชิงคาดคะเน (predictive planning) และการคาดการณ์โดยวิธีทางสถิติและระบบการเรียนรู้ของเครื่องคอมพิวเตอร์ (Machine Learning) อีกด้วย

การศึกษานี้อ้างอิงมาจากแบบสำรวจทางออนไลน์ทั่วโลกจาก 424 บริษัท

ข้อมูลและการเปลี่ยนแปลงของโลกดิจิทัลอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดอุปสรรคว่าข้อมูลเหล่านั้นมีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน

การเปลี่ยนแปลงและการแข่งขันในตลาดที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ในขณะนี้องค์กรต้องเผชิญกับอุปสรรคในการจัดหาข้อมูลด้วยความรวดเร็ว เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจได้อย่างทันท่วงที องค์กรต้องมีการคาดการณ์และวิเคราะห์สถานการณ์บ่อยมากขึ้น เพื่อรับมือกับสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งความไม่แน่นอนของสภาพแวดล้อมกดดันให้บริษัทจะต้องมีการอัปเดตข้อมูลของเป้าหมายในการคาดการณ์ในแต่ละช่วงเวลา เพราะการวางแผน การคาดการณ์ และการวิเคราะห์ จะต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เท่าทันความต้องการเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง

การวางแผนและการวิเคราะห์แบบบูรณาการคือรากฐานที่สำคัญของการตัดสินใจภายในองค์กร

แม้ว่าบริษัทต่าง ๆ หันมาให้ความสำคัญกับการวางแผนมากขึ้น แต่ก็ยังคงกดดันกับความท้าทายอื่นที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะยังมีอีกหลายสิ่งที่บริษัทต้องในการวางแผนภายในองค์กรแบบบูรณาการอย่างไรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะโดยทั่วไป องค์กรมักขาดการเชื่อมโยงกันของการมองภาพเชิงกลยุทธ์ในระยะสั้นและระยะยาว รวมทั้งมุมมองด้านการเงินและการดำเนินงานที่ควรมีความสอดคล้องกันด้วย

บริษัทต่าง ๆ มุ่งมั่นที่จะสร้างระบบบูรณาการแบบองค์รวม เพื่อทำให้มีความได้เปรียบในการแข่งขันมากขึ้น

ท่ามกลางสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้องค์กรต่าง ๆ ต้องมีการปรับเปลี่ยนเป้าหมายและการคาดการณ์ เพื่ออัปเดตข้อมูลสำหรับใช้ประกอบในการตัดสินใจอยู่ตลอดเวลา ด้วยการคาดการณ์ การจำลองสถานการณ์ และการวิเคราะห์ที่ครอบคลุมและถี่มากขึ้นเป็นเรื่องที่จำเป็น ทำให้องค์กรมีการลงทุนในระบบการวางแผนและการคาดการณ์ที่สามารถใช้งานได้ในระยะยาว การวางแผนและการวิเคราะห์แบบบูรณาการ รวมถึงกระบวนการแบบอัตโนมัติที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวช่วยเป็นสิ่งที่หลาย ๆ บริษัทต่างให้ความสำคัญ

อัลกอริทึมที่ช่วยในการคาดการณ์จะเปลี่ยนแปลงแนวทางในการวางแผนของบริษัทไปอย่างสิ้นเชิง

เพื่อที่จะลดงานในการวางแผนและเร่งให้สามารถทำการตัดสินใจได้รวดเร็วขึ้นท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา หลาย ๆ องค์กรมองเห็นว่าการวางแผนแบบใหม่ เช่น การวางแผนเชิงคาดคะเนและการคาดการณ์สามารถเป็นตัวช่วยได้ โดยเก้าในสิบขององค์กรมองว่ามีความสำคัญจนถึงมีความสำคัญมาก โมเดลการประมาณการ (Predictive models) ถูกออกแบบมาให้พัฒนากระบวนการในการวางแผนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามต้องการได้เร็วขึ้น

การประเมินถึงความสำคัญและการนำไปใช้ยังถือว่ามีน้อยมาก โดยสองในสามของบริษัทเพิ่งเริ่มนำการวางแผนเชิงคาดคะเนและการคาดการณ์มาใช้เท่านั้น ทำให้ยังไม่มีประสบการณ์ในด้านนี้ไม่มากนัก ซึ่งความเข้าใจในการคาดการณ์แบบอัตโนมัติและการประเมินตามสถานการณ์จริงนี้เองที่เป็นกุญแจสำคัญของการนำไปดำเนินงาน เพื่อให้องค์กรสามารถพัฒนาต่อไปได้

ความโปร่งใสของการได้มาซึ่งผลลัพธ์คือสิ่งที่สำคัญสำหรับการวางแผนเชิงคาดคะเน

มากกว่า 90% ขององค์กรที่เราได้ทำการสำรวจเชื่อมั่นว่า การบูรณาการการวางแผนเข้ากับการวิเคราะห์มีความสำคัญ และสามารถช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับการบริหารจัดการขององค์กร ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลว่าทำไมหลาย ๆ องค์กรถึงต้องการที่จะลงทุนในการปรับปรุงระบบให้เป็นแบบบูรณาการ โดยแกนหลักของการวางแผนงานแบบใหม่ อย่างเช่น การวางแผนเชิงคาดคะเนและการคาดการณ์ เป็นสิ่งที่จะทำให้องค์กรค้นพบศักยภาพในการเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการดำเนินงาน และนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในอนาคตด้านการวางแผนภายใต้เงื่อนไขต่าง ๆ ได้

อ้างอิงมาจาก: bi-survey blog

Please fill-up the form below





Click edit button to change this text. Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.

Download the Whitepapers

[hubspot type=form portal=2383378 id=6b773102-de9a-4e8c-86ad-af3f7fea5f47]